Final Fantasy IX บทกวีแห่งการสูญเสีย ท่วงทำนองแห่งความรัก จากเสียงสะท้อนเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าขาน

เรื่องราวตำนานต่างๆของ Final Fantasy มีปมความรักที่สุดแสนจะดราม่ามากมาย หาใครก็ตามที่ได้เสพเนื้อเรื่องจนเข้าถึงแก่นของเกมจะพบว่า ความรักนั้นอบอวลเต็มเนื้อเรื่องของเกมไปหมด เกือบทุกตัวละครของ Serie Final จะมีปมชีวิตแตกต่างกันไป ความเจ็บปวด รวดร้าว ที่ทีมงาน Square Enix สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัว หากพูดถึงเครื่อง PS1 หนึ่งในเนื้อเรื่องส่วนที่โด่งดังมากที่สุดมาจากพระเอกจิตตก อมทุกข์ แบกโลก วันๆเอาแต่อยู่ในความดำมืด ที่ดำดิ่งอย่างไร้ทางออก มืดมนจนคนเล่นทนไม่ได้ ความทรงจำอันแสนบิดเบี้ยว อย่าง Cloud ที่มีเซลล์ Jenova ในร่างกาย พระเอกจาก Serie FF7 ที่ไม่มีนางเอกของภาคอย่างแน่นอนว่าจะเป็น Aerith หรือ Tifa นอกจากนี้ยังมีภาค Side ต่างๆอย่างเช่น ภาค Final Fantasy VII AC ที่ถูกทำออกมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความรัก หรือ หากดู ในเรื่องราวของ Serie Final ถัดมาจะเป็น FF8 ที่เป็นเรื่องราวความรักตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นลูก กลายเป็นบทตำนานรักอันลือลั่น ถ้าหากจำเป็นต้องตั้งชื่อเรื่องราวความรักของพระเอกนางเอกคู่นี้ ให้ออกมาเป็นแนวละครเกาหลีก็คงได้ชื่อเรื่องว่าออกมาว่า เจ้าหนุ่มเย็นชากับยัยสาวจอมจุ้น ทำให้ Final Fantasy VIII เป็นอีกหนึ่งตำนานความรักที่ถูกกล่าวถึง ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยว่า FF9 จะไม่เกี่ยวข้องกับความรัก เพราะ Final Fantasy IX คือ เรื่องราวความรักสุดแสนที่จะน้ำเน่าและมักหาพบได้ในนิยายรักแฟนตาซีทั่วๆไป เรื่องราวของเชื้อพระวงศ์ ที่ถอดยศออก ขว้างมงกุฎทิ้ง สละฐานันดร เพื่อไปรักกันกับขโมยที่ต่างเผ่าพันธุ์ เป็นหนึ่งบทบาทที่ส่งผลกระทบในวงกว้างเรื่องการเหยียดชนชั้นได้ดีอย่างหนึ่งทีเดียว คำว่ารักไม่มีพรมแดนขว้างกั้นจะมีเพียงแค่ในนิยายรักเท่านั้นหรือ จะพบในโลกแห่งความเป็นจริงได้ใครเลยจะรู้

Final Fantasy IX หนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของโลกไฟนอลจากบทเพลง Melodies of life

เนื้อเพลงที่ถูกแต่งขึ้นมา เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงความรักความสำคัญอยู่ที่ เป็นเรื่องราวความรักของใคร ในบทเพลง เรื่องราวของ  Garnet Til Alexandros นกน้อยในกรงทอง ราชนิกูลที่จะกลายเป็นราชินีในอนาคตกับหัวขโมยปล้นใจ เรื่องราวของ Freya Crescent หญิงสาวที่คนรักหายสาบสูญ หรือ เรื่องราวของ Vivi ในการจากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน

เนื้อร้องภาษา อังกฤษและ ญี่ปุ่นมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ว่าสะท้อนออกมาถึงอารมณ์จนถึงขั้นร้องไห้ได้อย่างชัดเจน ใน Serie ก่อนหน้านี้ อย่าง FF8 ก็มีเพลงประจำเป็น Eye on me ที่โด่งดังทั่วโลกและจดจำอย่างไม่อาจลืมเลือน สายตาที่ส่งมาและไม่อาจจะละเลยออกไปได้ มันช่างแสนมีความหมายและอบอุ่นเมื่อยามได้มอง

เนื้อร้องภาษาอังกฤษของเพลง  Melodies of life ถอดความบางส่วนไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

In my dearest memories, I see you reaching out to me
ในส่วนลึกความความทรงจำที่แสนหวงแหน ฉันมองเห็นคุณเอื้อมมือมาหาฉัน

Though you’re gone, I still believe that you can call out my name
ถึงแม้ว่าคุณจะจากไปแล้ว, ฉันยังคงเชื่อว่าคุณเรียกเฝ้าพร่ำเรียกหาฉัน

Melodies of life, to the sky beyond the flying birds – Forever and beyond
ท่วงทำนองของชีวิต, เหมือนนกที่บินอยู่บนฝากฟ้าอันไกลแสนไกล และ ไกลตลอดไป

I’ve laid my memories and dreams upon those wings
ฉันได้วางความทรงจำและความฝันฝากไว้บนปีกคู่นั้น

Leave them now and see what tomorrow brings
เมื่อละออกจากสิ่งเหล่านั้น และ รอคอยสิ่งที่วันพรุ่งนี้จะนำพามา

In your dearest memories, do you remember loving me?
ในส่วนลึกความความทรงจำที่แสนหวงแหน คุณจำได้หรือไม่ว่าคุณเคยรักฉัน

Was it fate that brought us close and now leaves me behind?
หรือว่ามันอาจจะเป็นเพียงโชคชะตาที่นำพาเรามาใกล้ชิดและสุดท้ายก็ทิ้งฉันไว้เบื้องหลังอย่างเดียวดาย

Now I know we’ll carry on
ในตอนนี้ ฉันรู้แล้วว่าชีวิตพวกเราต้องดำเนินต่อไป

Melodies of life
ท่วงทำนองหนึ่งของชีวิต

Come circle round and grow deep in our hearts As long as we remember
ที่จะเข้ามาหมุนเวียนเป็นวงจรและฝังลึกลงในหัวใจของเรา ตราบใดที่เรายังจดจำ

เพลงในซีรีย์เกมไฟนอลยังคงมีเรื่องราวของเนื้อเรื่องแฝงไว้เสมอ โดยเฉพาะ ในส่วนประโยคที่ว่า Leave them now and see what tomorrow brings. ถือเป็นทัศนะคติที่ดีมากๆ ในการใช้ชีวิต ประโยคนี้เป็นการส่งข้อความ เพื่อที่ให้เราอยู่กับปัจจุบันและทำมันให้ดีที่สุดแม้ว่าในบางครั้งอาจจะถูกลืมเลือนไป สื่อได้ถึง Vivi Ornitier ที่พยายามจะพิสูจน์ถึงการมีตัวตนของเขา การเดินทางเพื่อพิสูจน์ถึงคุณค่าในการมีตัวตน  ความโศกเศร้าหรือปวดร้าวที่สุด คือ การไม่มีคุณค่าในสายตาของคนที่เรารัก แคร์ หรือ ไว้ใจ

อีกช่วงหนึ่งภายในเกมที่สื่อถึงตัวละครภายในเกมตัวนี้ได้เป็นอย่างดี คือ ช่วงที่ Vivi คุยกับ Black Mage No. 288 ด้วยคำถามถึงเรื่องความตายว่าจะตายแล้วรู้สึกอย่างไร ซึ่ง Black Mage No. 288 ตอบกลับมาว่าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะรู้สึกอย่างไร แต่การใช้ชีวิตกับทุกคนในหมู่บ้านก็มีความสุข สิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขมากกว่าความกลัวต่อความตาย และ รู้สึกถึงคุณค่าของการมีชีวิต และ พูดถึงการผจญภัยในชีวิตกับเพื่อนๆ คือ การทำให้ชีวิตมีความหมายไม่ใช่หรือ ทำให้บทสรุปส่งท้ายของการเดินทาง Vivi ขอบคุณที่ Zidane ในการสอนบทเรียนต่างๆและความหมายของชีวิต (สาเหตุเพราะ Vivi เกิดขึ้นมาจากซากหมอก ที่จำเป็นต้องตายโดยไม่รู้ว่าจะช้าเร็วขนาดไหน) อาจจะกล่าวได้ว่าบทสรุปของ Vivi อยู่ในบทเพลงท่อนหนึ่งของเพลงที่ทำเพียงเพื่อให้คนสำคัญได้จดจำเขาไว้ในหัวใจตลอดกาล แม้ว่าอาจจะไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับตัวเขาแล้ว

เนื้อร้องภาษาญี่ปุ่นของเพลง  Melodies of life ถอดความบางส่วนไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

めぐり逢うのは偶然と言えるの (meguri aunowa guusen to ieruno)
ถ้าหากการกลับมาพบกันอีกครั้ง จะเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้นหรือ

別れる時が必ず来るのに (wakarerutokiga kanarazukurunoni)
ถึงแม้ว่ารู้ว่ากาลเวลาที่ทำมาให้พบกัน อาจจะทำให้ต้องลาจากนั้นมาถึง

消えゆく運命でも (kie yuku unmei demo)
ถ้าหากว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตนี้ก็จะยังคงอยู่ต่อไป

君が生きている限り (kimi ga ikite iru kagiri)
หากยังมีแรงเหลืออยู่ (ชีวิตนี้จะยังคงอยู่ต่อไป) ชั่วนิรันดร์

いのちはつづく 永遠に (inochi wa tsuzuku eien ni)
ถึงแม้ว่าฉันจะที่ต้องสลายหายไป

その力の限りどこまでもつづく (sono chikaranokagiri doko mademo tsusuku)
ฉันก็จะยังมีชีวิตอยู่ (ในใจเธอ) ตลอดไป

ในอีกมุมมองหนึ่ง การถูกลืมมันแย่เสียยิ่งกว่าความตาย  Freya ที่คนรักได้หายสาบสูญ หลังจากการตามหาตลอดช่วงเวลาแห่งการเดินทาง กับเพื่อนทำให้ได้พบเจอกับคนรักที่สูญเสียความทรงจำ หรืออีกในหนึ่งคือ หมดสิ้นความรักที่มีต่อ Freya แต่ว่า Freya ก็ยังจะเลือกอยู่เคียงข้างคนรักเขาตลอดไป เมื่อเคยทำให้เขาตกหลุมรักได้แล้วครั้งหนึ่ง ย่อมสามารถทำให้เขาตกหลุมรักได้อีกครั้ง ไม่สำคัญว่าในอนาคตจะจำได้หรือไม่ได้ เพราะเมื่อใดก็ตามถ้าหากยังมีชีวิตอยู่ คนที่เรารักก็จะยังอยู่ในความทรงจำอยู่ดี

เรื่องราวแห่งความทรงจำความหมายของชีวิตกับตัวละครหลักจาก Final Fantasy IX

ความเป็นจริงต่างๆของตัวละครที่อยู่ ภายในเกมจากโลกใบหนึ่งเข้ามาสู่การหาความหมายของชีวิต เพื่อที่จะก้าวพ้นช่วงชีวิต จากตัวละคร 8 ตัว ที่แตกต่างกันทางด้านอาชีพ

Zidane การไม่ยึดติดในอนาคต รักอิสระที่จะปล่อยทุกอย่างให้เป็นไป จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องหาเหตุผลในการช่วยเหลือผู้คน แม้ว่าในท้ายที่สุดและคิดว่าถูกต้องสิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือสิ่งเลวร้ายแม้จะต้องแลกกับอะไรบางอย่าง แต่ถ้าสมควรที่จะช่วยเหลือก็ควรทำ
Garnet ตามหาตัวตนในแบบของตัวเองจากสิ่งที่ถูกบังคับให้เป็นมาเนิ่นนาน เจ้าหญิงตกอับซุกซ่อนความดราม่า ก่อนแม่เธอเสียชีวิตได้บอกกับเธอว่า อย่ายึดติดกับสิ่งใด แต่กลับมีสิ่งที่กำหนดกฎเกณฑ์แนวทางอนาคต ของเธอมาตั้งแต่เริ่ม คือ มนต์อสูร
Vivi ตามหาความหมายในการมีชีวิตและคุณค่าในของตัวเอง ความเศร้าโศกความรวดร้าวภายในใจ เพื่อพิสูจน์การมีตัวตน มีค่าแค่ไหน
Freya ตามหาคนรักที่สาบสูญ ในคืนวันที่เราโอบกอดรับรู้ซึ่งกันและกัน โดยไม่ต้องมีถ้อยคำพูดหรือคำสัญญาใดๆ แม้ว่าจะไม่มีวันหวนกลับมาเป็นครั้งที่2 ถึงจะเหลือเพียงวิญญาณก็จะรักตลอดไป
Quena ตามหาการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบประหลาดๆของตัวเอง ควีน่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่ ไม่มีอะไรเลยนอกจากกินกบ การออกเดินทางเพื่อกินกบ เป็นสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาไม่ได้ และทำตามใจตัวเองมากที่สุด
Eiko การตามหาครอบครัวและความรัก เพราะไม่อยากอยู่คนเดียว นางโดนทำลายหมู่บ้าน และ ต้องการมีครอบครัวหรือใครมาเข้าใจ
Strainer การตามหาความหมายของชีวิตหน้าที่การงานภายใต้สัตยาบันแห่งคำสาบานปกป้ององค์หญิงจนถึงที่สุด
Salamander การตามหาความหมายของการให้อภัย เพราะ อนาคต คือ ความไม่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวต่างๆจะมีบทสรุปออกมาเป็นอย่างไรสิ่งสำคัญ คือ ระหว่างการเดินทางได้สัมผัสถึงสิ่งใด จุดเริ่มต้นจนถึงจุดจบเรื่องราวความรักและมิตรภาพล้วนไม่เคยจางหายไป การเริ่มต้นที่ไม่มีวันสิ้นสุด ความทรงจำจะยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจไปตลอดกาล หรือ จะจากกันตอนที่ยังจำได้เป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะ อดีตมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้วมีแค่สิ่งที่จำได้กับจำไม่ได้ ส่วนอนาคตก็เพียงแค่เรื่องที่ยังมาไม่ถึงเท่านั้นเอง