ซึบาสะตำนานลูกหนังวงการการ์ตูนส่งผลต่อวงการฟุตบอลของโลก

tsubasa legendary cartoon

เป็นที่ทราบกันดีว่าการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล หากจะมีใครก็ตามพูดถึง เรื่องซึบาสะ นับว่าเป็นเรื่องอันดับต้นๆที่มักจะถูกพูดถึง การ์ตูนระดับตำนานที่ถูกยกให้เป็นไอดอลของวงการการ์ตูนกีฬา สำหรับผู้ที่มีความฝันจะหยิบยกเอาการ์ตูนเรื่องนี้มาพูดถึง ระยะเวลาที่ยาวนานมามากกว่า 35 ปี เริ่มตั้งแต่เมื่อ 1981 การเป็นทั้งความสนุกสนานและแรงบันดาลใจ  ประโยคสุดคราสสิกอย่างหนึ่งในการ์ตูนเรื่องนี้ ได้แก่ ฟุตบอลคือเพื่อน ก่อนที่ซึบาสะกลายเป็นการ์ตูนสุดโปรดในดวงใจของใครหลายคน  และ ติด 1 ใน 5 การ์ตูนฮิตตลอดกาลของประเทศญี่ปุ่น

Takahashi Yoichi ผู้รังสรรค์ผลงานชิ้นนี้เผยในตอนแรกว่าเขาชื่นชอบการเล่นเบสบอล ที่เป็นกีฬายอดนิยมอย่างหนึ่งในญี่ปุ่นโดยที่เจ้าตัวสารภาพว่าไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับกีฬาฟุตบอลเลยในตอนแรก จนกระทั่งฟุตบอลโลก 1978 ที่อาร์เจนตินา ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาได้เปลี่ยนไปตลอดกาล ความสนุกสนานของฟุตบอลในช่วงระยะเวลานั้น ทำให้ Takahashi Yoichi ตกหลุมรักฟุตบอลเข้าอย่างจัง และทำการศึกษาข้อมูลเรื่องฟุตบอลทั้งในยุโรป และอเมริกาใต้ และเข้าใจถึงกีฬาที่ได้รับความรักและความนิยมมากที่สุดในโลก คือ ฟุตบอล

13 เมษายน ปี 1981 ก้าวแรกของซึบาสะได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับความหวังที่ว่าสิ่งมหัศจรรย์นี้จะแพร่หลายไปทั่วประเทศ และยังกลายเป็นปรากฏการณ์ทางสังคม ที่ทำให้เรื่องราวทางด้านฟุตบอลได้รับความนิยม การต่อสู้เพื่อความฝันของตนเองเดินทางมาอย่างยาวนานจวบจนถึงปัจจุบัน ความเวอร์นับว่าเป็นจุดขายอย่างหนึ่งที่ดีของเรื่องนี้ทีเดียว โดยที่อาจารย์ผู้วาดได้กล่าวไว้ว่า การวาดการ์ตูนเรื่องนี้และประสบความสำเร็จได้เพราะเขาไม่รู้จักฟุตบอล เล่นบอลไม่เป็น ทำให้ไม่รู้ขีดจำกัดของการเล่น จึงทำให้มีไอเดียในการเขียนการ์ตูนแบบไร้พรมแดน

ซึบาสะเป็นการ์ตูนที่มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลญี่ปุ่น

ในเรื่องยอดขาย หรือ ความสำเร็จทางด้านความนิยมเป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้กระแส กีฬาฟุตบอลถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ซึ่งปรากฏการณ์นี้อีกเช่นกันที่ทำให้วงการฟุตบอลญี่ปุ่นพลิกโฉม จาก เดิมก่อนหน้านี้ที่การ์ตูนเรื่องซึบาสะจะถูกตีพิมพ์ ภายในประเทศญี่ปุ่นจะมีเพียงแค่ลีกกึ่งอาชีพเท่านั้น โดยเป็นทีมที่มาจากองค์กร หรือ บริษัทต่างๆ

การเข้ารอบสำหรับเล่นฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิกยังเป็นไปได้ยาก เอเชียนคัพยังหมดโอกาส ยิ่งฟุตบอลโลกไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปสู่รอบสุดท้าย ญี่ปุ่นไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เพราะสำหรับญี่ปุ่นเมื่อประมาณปี 20 ถึง 30 ปีที่แล้วเบสบอลเป็นกีฬาที่ยิ่งใหญ่มาก ส่วนฟุตบอลนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ไม่มีฮีโร่ใดๆ หรือ แบบอย่างเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอล แต่การ์ตูนเรื่องซึบาสะนั้นกลับกลายเป็นตัวแทนและแรงบันดาลใจในวัยเด็กของนักเตะชื่อดังของญี่ปุ่นหลายๆคน ได้แก่ ฮิเดโตชิ นาคาตะ, ชุนซุเกะ นาคามูระ หรือ โยชิคัตสึ คาวางุจิ และ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักเตะดังระดับโลก หลายคน นับได้ว่าอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้วงการฟุตบอลญี่ปุ่นขับเคลื่อน คือ การ์ตูนเรื่องซีบาสะ

สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นได้ทำการบรรจุการ์ตูนเรื่องนี้ไว้ในพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลของ JFA เนื่องจากช่วยผลักดันวงการฟุตบอลของประเทศ เพราะฟุตบอลลีกอาชีพของญี่ปุ่นนั้นถูกสร้างขึ้นหลังจากการ์ตูนเรื่องซึบาสะถึง 10 ปีทีเดียว การ์ตูนเรื่องนี้ทำให้กีฬาฟุตบอลแพร่หลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ

ความฝันทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ซึบาสะสร้างแรงบันดาลใจทำเด็กธรรมดาเปลี่ยนความทรงจำในวัยเด็ก ให้เป็นนักเตะชื่อดังระดับโลก

กัปตันซึบาสะกับฟุตบอลไทย

การเชียร์ฟุตบอลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เน้นมิตรภาพและวินัยในการฝึกซ้อมกีฬา อาจจะเล็งเห็นได้ว่าการเล่นฟุตบอลในการ์ตูนนั้นแฝงไว้ด้วยวัฒนธรรมของประเทศชาติด้วยอย่างเช่น วากาชิมัตสึ ผู้รักษาประตูอีกคนหนึ่งของเรื่อง ผสมผสานเอาคาราเต้กับการรักษาประตูเข้าไว้ด้วยกัน ในเรื่องซึบาสะมีการเขียนตัวละครที่เป็นชาวไทยไว้ด้วยหลายคน อย่าง ฟ้าลั่น กรสวัสดิ์ (ชื่อเหมือนนักมวยมาก)พี่ชายคนโต เป็นผู้ใช้ทักษะตะกร้อในการเล่นฟุตบอล พร้อมกับท่าไม้ตาย แท็ปปิงสไปค์ (ตอกส้น) , สกุล กรสวัสดิ์ พี่ชายคนรองโต เป็นผู้ใช้ทักษะตะกร้อในการเล่นฟุตบอลพร้อมกับท่าไม้ตาย ซิสเซอร์สไปค์ (กระโดสลับขาเตะ) ชนะ กรสวัสดิ์ น้องคนเล็ก เป็นผู้ใช้ทักษะตะกร้อในการเล่นฟุตบอลพร้อมกับท่าไม้ตาย โรลลิง สไปค์ (กระโดดหมุนตัวเตะ) และ บุนนาค สิงห์ประเสริฐ ที่ผสมผสานมวยไทยกับฟุตบอล ซึ่งตัวละครต่างๆเหล่านี้แสดงถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นการเขียนเพื่อให้เป็นที่ระลึก การแข่งรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติญี่ปุ่น